ชุดขาว เฮงจมเรือ 1-0 เจอตราหมีชิงดำ แชมเปียนส์ ลีก
โพสต์เมื่อ 5 พ.ค. 2559 07:28:39 น. เข้าชม 1382 ครั้ง แจ้งลบ
ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
รีล มาดริด 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
(รวม 2 นัด มาดริด เข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
ศึกลูกหนัง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง บิ๊กแมตช์ รีล มาดริด แชมป์ยุโรป 10 สมัย เปิด ซานติเอโก เบร์นาบิว เจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งเดียวจาก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดแรกที่เจอกันเสมอ 0-0 ต้องมาตัดสินกันอีก 90 นาที เกมนี้เจ้าบ้านได้ คริสเตียโน โรนัลโด ฟิตลงเป็นตัวจริงแล้ว ด้านทีมเยือนใช้ เซร์คิโอ อกูเอโร เป็นหัวหอก
เริ่มเกมมา 10 นาที ซิตี เสียโควต้าเปลี่ยนตัวเร็วเมื่อ แวงซองต์ กอมปานี บาดเจ็บต้องให้ เอเลกิม มองกาลา ลงมาแทน มาถึง นาที 12 มาดริด เกือบได้ประตูนำแบบจะจะ ดาเนียล คาร์บาฆัล สาดยาวไปด้านหน้าแล้ว คริสเตียโน โรนัลโด ชิงจังหวะโหม่งแต่ข้ามคานนิดเดียว
บุกมาอยู่พักใหญ่ นาที 20 เจ้าบ้านนำจนได้ ดาเนียล คาร์บาฆัล แทงเรียดให้ แกเร็ธ เบล สปีดกงล้อแล้วยิงเสียบสามเหลี่ยมมุมแคบโดยแฉลบขา แฟร์นานโด เข้า 1-0 ด้าน นาที 22 ซิตี มีโอกาสบ้าง เควิน เดอ บรุยน์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ แฟร์นานโด โหม่งแต่ข้ามคานไปเสียอีก
เกมเริ่มอืดนิดหน่อย กระทั่ง นาที 45 เรือใบสีฟ้า ทำสาวก "ราชันชุดขาว" ครางฮือจากลูกสวนกลับ แฟร์นานดินโญ ลากล็อกหาช่องแล้วซัดโล่งๆแต่บอลหลุดเสานิดเดียว จบครึ่งแรก มาดริด นำอยู่ 1 ลูก
ครึ่งหลังลุยต่อ นาที 52 มาดริด พลาดเม็ดสอง แกเร็ธ เบล โยนยาวไปให้ ลูกา โมดริช จิ้มแบบไม่ล้ำแต่ โจ ฮาร์ท คว้าบอลติดมือ ต่อมา นาที 64 เจ้าบ้านยังไม่หยุดหย่อน โทนี โครส เปิดลูกเตะมุมให้ แกเร็ธ เบล โหม่งจะเอาลูกที่สองให้ทีมและตัวเอง แต่โชคร้ายชนคาน
ซิตี บุกหนักช่วงท้าย นาที 84 เควิน เดอ บรุยน์ เล่นทีเผลอเปิดลูกเตะมุมกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาแรกแต่ก็ออกหลังไปอีก ท้ายเกม นาที 89 เซร์คิโอ อกูเอโร หวดตูมไปหน้าประตูแต่ข้ามคาน สุดท้ายไม่มีปาฏิหาริย์ จบเกม มาดริด ตีตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 11 กับ แอตเลติโก มาดริด คู่แค้นร่วมเมือง วันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ที่ ซาน ซิโร เมือง มิลาน ประเทศอิตาลี
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
รีล มาดริด - เคย์เลอร์ นาบาส, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล, ดาเนียล คาร์บาฆัล, โทนี โครส, ลูกา โมดริช, อิสโก, คริสเตียโน โรนัลโด, แกเร็ธ เบล, เฆเซ
แมนเชสเตอร์ ซิตี - โจ ฮาร์ท, บาการี ซานญา, แวงซองต์ กอมปานี, กาแอล กลิชี, นิโคลัส โอตาเมนดี, แฟร์นานโด, เฆซุส นาบาส, เควิน เดอ บรุยน์, แฟร์นานดินโญ, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อกูเอโร
รีล มาดริด 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
(รวม 2 นัด มาดริด เข้ารอบด้วยประตูรวม 1-0)
ศึกลูกหนัง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง บิ๊กแมตช์ รีล มาดริด แชมป์ยุโรป 10 สมัย เปิด ซานติเอโก เบร์นาบิว เจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งเดียวจาก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดแรกที่เจอกันเสมอ 0-0 ต้องมาตัดสินกันอีก 90 นาที เกมนี้เจ้าบ้านได้ คริสเตียโน โรนัลโด ฟิตลงเป็นตัวจริงแล้ว ด้านทีมเยือนใช้ เซร์คิโอ อกูเอโร เป็นหัวหอก
เริ่มเกมมา 10 นาที ซิตี เสียโควต้าเปลี่ยนตัวเร็วเมื่อ แวงซองต์ กอมปานี บาดเจ็บต้องให้ เอเลกิม มองกาลา ลงมาแทน มาถึง นาที 12 มาดริด เกือบได้ประตูนำแบบจะจะ ดาเนียล คาร์บาฆัล สาดยาวไปด้านหน้าแล้ว คริสเตียโน โรนัลโด ชิงจังหวะโหม่งแต่ข้ามคานนิดเดียว
บุกมาอยู่พักใหญ่ นาที 20 เจ้าบ้านนำจนได้ ดาเนียล คาร์บาฆัล แทงเรียดให้ แกเร็ธ เบล สปีดกงล้อแล้วยิงเสียบสามเหลี่ยมมุมแคบโดยแฉลบขา แฟร์นานโด เข้า 1-0 ด้าน นาที 22 ซิตี มีโอกาสบ้าง เควิน เดอ บรุยน์ เปิดลูกเตะมุมเข้ามาให้ แฟร์นานโด โหม่งแต่ข้ามคานไปเสียอีก
เกมเริ่มอืดนิดหน่อย กระทั่ง นาที 45 เรือใบสีฟ้า ทำสาวก "ราชันชุดขาว" ครางฮือจากลูกสวนกลับ แฟร์นานดินโญ ลากล็อกหาช่องแล้วซัดโล่งๆแต่บอลหลุดเสานิดเดียว จบครึ่งแรก มาดริด นำอยู่ 1 ลูก
ครึ่งหลังลุยต่อ นาที 52 มาดริด พลาดเม็ดสอง แกเร็ธ เบล โยนยาวไปให้ ลูกา โมดริช จิ้มแบบไม่ล้ำแต่ โจ ฮาร์ท คว้าบอลติดมือ ต่อมา นาที 64 เจ้าบ้านยังไม่หยุดหย่อน โทนี โครส เปิดลูกเตะมุมให้ แกเร็ธ เบล โหม่งจะเอาลูกที่สองให้ทีมและตัวเอง แต่โชคร้ายชนคาน
ซิตี บุกหนักช่วงท้าย นาที 84 เควิน เดอ บรุยน์ เล่นทีเผลอเปิดลูกเตะมุมกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาแรกแต่ก็ออกหลังไปอีก ท้ายเกม นาที 89 เซร์คิโอ อกูเอโร หวดตูมไปหน้าประตูแต่ข้ามคาน สุดท้ายไม่มีปาฏิหาริย์ จบเกม มาดริด ตีตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 11 กับ แอตเลติโก มาดริด คู่แค้นร่วมเมือง วันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ที่ ซาน ซิโร เมือง มิลาน ประเทศอิตาลี
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
รีล มาดริด - เคย์เลอร์ นาบาส, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล, ดาเนียล คาร์บาฆัล, โทนี โครส, ลูกา โมดริช, อิสโก, คริสเตียโน โรนัลโด, แกเร็ธ เบล, เฆเซ
แมนเชสเตอร์ ซิตี - โจ ฮาร์ท, บาการี ซานญา, แวงซองต์ กอมปานี, กาแอล กลิชี, นิโคลัส โอตาเมนดี, แฟร์นานโด, เฆซุส นาบาส, เควิน เดอ บรุยน์, แฟร์นานดินโญ, ยายา ตูเร, เซร์คิโอ อกูเอโร
Loading the player...
แสดงความคิดเห็น
