เชลซี คมกริบถล่มไบรจ์ตันฯ ยับ 4-0
โพสต์เมื่อ 20 ม.ค. 2561 22:26:19 น. เข้าชม 958 ครั้ง แจ้งลบ
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2017-18
ไบรจ์ตันฯ 0-4 เชลซี
อันโตนิโอ คอนเต กุนซือ เชลซี ปราศจาก อัลบาโร โมราตา กับ เปโดร ติดโทษแบน และจับ รอสส์ บาร์กลีย์ มิดฟิลด์ป้ายแดง นั่งสำรอง ส่ง มิชี บาตชัวยี รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน วิลเลียน และ เอเดน อาซาร์ ล่าตาข่าย รับมือ ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ที่มี โทเมอร์ เฮเหม็ด กับ ซอลลี มาร์ช เป็นคู่หูแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้นแค่ 3 นาที เชลซี ขึ้นนำ 1-0 วิคเตอร์ โมเซส วิงแบ็ก โยกหนีไปสุดเส้นฝั่งขวา หักเรียดแฉลบขา เดล สตีเฟนส์ ตั้งให้ เอเดน อาซาร์ อัดเต็มแรง ตาข่ายแทบขาด สกอร์ไหลเป็น 2-0 นาที 6 จากการทำชื่งของ 3 ประสานแดนหน้าอย่างเข้าขารู้ใจ จบที่ วิลเลียน แนวรุกบราซิเลียน ตะบันด้วยขวาบริเวณหัวกะโหลก
แชมป์เก่า หวิดบวกเพิ่มจากเกมสวนกลับ นาที 28 เอเดน อาซาร์ เลื้อยดึงตัวประกบแล้วดีดออกขวาให้ มืชี บาตชัวยี ตั้งป้อมกดเน้นๆ มาตี ไรอัน นายทวาร ป้องกันไว้ได้ เข้าสู่นาที 30 ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน น่าตีไข่แตกแบบสุดๆ ปาสคาล โกรสส์ ยึกยักหาช่อง โยนจากกราบขวาให้ โทเมอร์ เฮเหม็ด โหม่งกดลงพื้น วิลลี คาบาเยโร นายทวาร ถลำไปทางเสาสองแล้ว แต่ยังทิ้งตัวปัดไว้ได้แบบหวุดหวิด
สู้กันต่อครึ่งหลัง กองเชียร์ เจ้าถิ่น เกือบได้เฮ นาที 50 ปาสคาล โกรสส์ บรรจงหยอดจากขวาให้ ดาวี ปร็อปเปอร์ ขวิดโล่งๆ ชนสามเหลี่ยมเสาแรก จากนั้น 8 นาที "เดอะ บลูส์" ได้เสียว วิลเลียน ปั่นฟรีคิกกลางประตู โค้งข้ามกำแพง มาตี ไรอัน เหยียดปัดชนเสา
ทีมของ คริส ฮิวจ์ตัน พลาดโอกาสทองอีกครั้ง นาที 66 เอซกิเอล เชล็อตโต อาศัยจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ มัวแต่รีรอ โฉบแย่งบอลตัดหน้า หลุดไปล่อเป้ากับ วิลลี คาบาเยโร แล้วเหยียดขาชาร์จติดเซฟ เป็นเหตุให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ตอกฝาโลงสนิท นาที 77 เอเดน อาซาร์ ลากตัดจากฝั่งซ้าย แล้วยิงหักข้อด้วยขวา เสียบมุมเสาแรก ทิ้งห่าง 3-0
แชมป์ยุโรป 1 สมัย ย้ำชัย 4-0 นาที 89 ชาร์ลี มูซอนดา ตัวสำรอง วางบอลยาวเจาะตรงกลางให้ วิคเตอร์ โมเซส แต่งลงพื้น แปด้วยซ้ายสวน มาตี ไรอัน ซุกก้นตาข่าย จบเกม เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 50 แต้ม จาก 24 นัด เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผลต่างลูกได้-เสียน้อยกว่า รั้งอันดับ 3 ขณะที่ ไบรจ์ตันฯ มี 23 แต้มเท่าเดิม อยู่อันดับ 16
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ไบรจ์ตันฯ : มาตี ไรอัน , คอนเนอร์ โกลด์สัน , ลูอิส ดังค์ , เชน ดัฟฟี , ดาวี ปร็อปเปอร์ , เดล สตีเฟนส์ , มาร์คุส ซุตต์เนอร์ , เอเซกิเอล เชล็อตโต , โทเมอร์ เฮเหม็ด , ปาสคาล โกรสส์ , ซอลลี มาร์ช
ไบรจ์ตันฯ 0-4 เชลซี
อันโตนิโอ คอนเต กุนซือ เชลซี ปราศจาก อัลบาโร โมราตา กับ เปโดร ติดโทษแบน และจับ รอสส์ บาร์กลีย์ มิดฟิลด์ป้ายแดง นั่งสำรอง ส่ง มิชี บาตชัวยี รับบทศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน วิลเลียน และ เอเดน อาซาร์ ล่าตาข่าย รับมือ ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ที่มี โทเมอร์ เฮเหม็ด กับ ซอลลี มาร์ช เป็นคู่หูแนวรุก
เสียงนกหวีดดังขึ้นแค่ 3 นาที เชลซี ขึ้นนำ 1-0 วิคเตอร์ โมเซส วิงแบ็ก โยกหนีไปสุดเส้นฝั่งขวา หักเรียดแฉลบขา เดล สตีเฟนส์ ตั้งให้ เอเดน อาซาร์ อัดเต็มแรง ตาข่ายแทบขาด สกอร์ไหลเป็น 2-0 นาที 6 จากการทำชื่งของ 3 ประสานแดนหน้าอย่างเข้าขารู้ใจ จบที่ วิลเลียน แนวรุกบราซิเลียน ตะบันด้วยขวาบริเวณหัวกะโหลก
แชมป์เก่า หวิดบวกเพิ่มจากเกมสวนกลับ นาที 28 เอเดน อาซาร์ เลื้อยดึงตัวประกบแล้วดีดออกขวาให้ มืชี บาตชัวยี ตั้งป้อมกดเน้นๆ มาตี ไรอัน นายทวาร ป้องกันไว้ได้ เข้าสู่นาที 30 ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน น่าตีไข่แตกแบบสุดๆ ปาสคาล โกรสส์ ยึกยักหาช่อง โยนจากกราบขวาให้ โทเมอร์ เฮเหม็ด โหม่งกดลงพื้น วิลลี คาบาเยโร นายทวาร ถลำไปทางเสาสองแล้ว แต่ยังทิ้งตัวปัดไว้ได้แบบหวุดหวิด
สู้กันต่อครึ่งหลัง กองเชียร์ เจ้าถิ่น เกือบได้เฮ นาที 50 ปาสคาล โกรสส์ บรรจงหยอดจากขวาให้ ดาวี ปร็อปเปอร์ ขวิดโล่งๆ ชนสามเหลี่ยมเสาแรก จากนั้น 8 นาที "เดอะ บลูส์" ได้เสียว วิลเลียน ปั่นฟรีคิกกลางประตู โค้งข้ามกำแพง มาตี ไรอัน เหยียดปัดชนเสา
ทีมของ คริส ฮิวจ์ตัน พลาดโอกาสทองอีกครั้ง นาที 66 เอซกิเอล เชล็อตโต อาศัยจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ มัวแต่รีรอ โฉบแย่งบอลตัดหน้า หลุดไปล่อเป้ากับ วิลลี คาบาเยโร แล้วเหยียดขาชาร์จติดเซฟ เป็นเหตุให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ตอกฝาโลงสนิท นาที 77 เอเดน อาซาร์ ลากตัดจากฝั่งซ้าย แล้วยิงหักข้อด้วยขวา เสียบมุมเสาแรก ทิ้งห่าง 3-0
แชมป์ยุโรป 1 สมัย ย้ำชัย 4-0 นาที 89 ชาร์ลี มูซอนดา ตัวสำรอง วางบอลยาวเจาะตรงกลางให้ วิคเตอร์ โมเซส แต่งลงพื้น แปด้วยซ้ายสวน มาตี ไรอัน ซุกก้นตาข่าย จบเกม เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 50 แต้ม จาก 24 นัด เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผลต่างลูกได้-เสียน้อยกว่า รั้งอันดับ 3 ขณะที่ ไบรจ์ตันฯ มี 23 แต้มเท่าเดิม อยู่อันดับ 16
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ไบรจ์ตันฯ : มาตี ไรอัน , คอนเนอร์ โกลด์สัน , ลูอิส ดังค์ , เชน ดัฟฟี , ดาวี ปร็อปเปอร์ , เดล สตีเฟนส์ , มาร์คุส ซุตต์เนอร์ , เอเซกิเอล เชล็อตโต , โทเมอร์ เฮเหม็ด , ปาสคาล โกรสส์ , ซอลลี มาร์ช
แสดงความคิดเห็น
